• รัฐบาล 7 ประเทศสำคัญได้เสริมสร้างความมุ่งมั่นในการใช้พลังซื้อเพื่อสร้างความต้องการในตลาดสำหรับวัสดุก่อสร้างที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำหรือเกือบเป็นศูนย์ผ่านการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับโครงการก่อสร้างภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอุตสาหกรรมหนักเหล่านี้
  • เหล็กและคอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างพื้นฐานที่สำคัญ แต่เป็นสองในผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอนสูงที่สุดในโลก การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเหล็ก ซีเมนต์ และคอนกรีตจำเป็นต้องลดลงกว่าร้อยละ 90 ภายในปี 2593 เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ

ที่ประชุม COP28 รัฐบาลของประเทศขนาดใหญ่ที่เป็นผู้จัดซื้อวัสดุก่อสร้างที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากสุดสำหรับโครงการก่อสร้างภาครัฐ ได้ใช้กำลังซื้อของพวกเขาในการสร้างความต้องการของตลาดสินค้าเหล็ก ซีเมนต์และคอนกรีตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำหรือเกือบเป็นศูนย์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกจากอุตสาหกรรมหนักเหล่านี้

รัฐบาลของแคนาดา เยอรมนี สหราชอาณาจักรฯ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสมาชิกของโครงการริเริ่มการลดก๊าซเรือนกระจกในเชิงลึก (Industrial Deep Decarbonization Initiative: IDDI) ได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันที่มีกรอบเวลาชัดเจนในการจัดซื้อเหล็ก ซีเมนต์และคอนกรีตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และ/หรือ กำหนดเกณฑ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับการประเมินวงจรชีวิตของโครงการทั้งหมด เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในอาคารและ/หรือสิ่งก่อสร้างพื้นฐานของภาครัฐ

ข้อผูกพันดังกล่าวจัดทำขึ้นผ่านคำมั่นสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Public Procurement Pledge: GPP) ของ IDDI มีจุดมุ่งหมายเพื่อจูงใจให้เกิดการผลิตและการใช้เหล็ก ซีเมนต์ และคอนกรีตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำและเกือบเป็นศูนย์ ด้วยการสร้างความต้องการวัตถุดิบเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะภาคการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเชิงบวกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

IDDI เป็นโครงการริเริ่มของ Clean Energy Ministerial ที่นำโดย UNIDO มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เกือบเป็นศูนย์หรือปล่อยสุทธิเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรมหนักโดยเริ่มจากเหล็กและซีเมนต์

เหล็กและคอนกรีตเป็นองค์ประกอบสำคัญของเศรษฐกิจโลกและเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนของการพัฒนา แต่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ 2 ชนิดที่มีคาร์บอนสูงมาก การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเหล็กคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7-10 ส่วนปูนซีเมนต์คิดเป็นร้อยละ 7 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานทั่วโลก ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศโลก การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเหล็ก ซีเมนต์ และคอนกรีต จำเป็นต้องลดลงมากกว่าร้อยละ 90 ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050)

Gerd Müller ผู้อำนวยการใหญ่ของ UNIDO กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอุตสาหกรรมหนักทั่วโลกด้วยการสร้างตลาดสำหรับเหล็กและซีเมนต์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำและเกือบเป็นศูนย์ รัฐบาลเป็นหนึ่งในผู้ซื้อวัสดุรายใหญ่สำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ การจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะคาดว่าคิดเป็นร้อยละ 25 ของรายได้จากการก่อสร้างทั่วโลก ผมยินดีที่ได้เห็นรัฐบาล เช่น แคนาดา เยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้นำในเรื่องนี้” Stefan Wenzel รัฐมนตรีต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของเยอรมนี กล่าวว่า “การเร่งความต้องการวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เหล็กและซีเมนต์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมของเรา Industrial Deep Decarbonization Initiative ซึ่งได้รับการประสานงานโดย UNIDO แสดงให้เราเห็นเส้นทางข้างหน้าด้วยคำมั่นสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรามีความยินดีที่จะประกาศความมุ่งมั่นและความพยายามของเราร่วมกับพันธมิตรของเราที่การประชุม COP28 และเชิญผู้อื่นให้มีส่วนร่วมในความพยายามที่สำคัญนี้

Graham Stuart รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงด้านพลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของสหราชอาณาจักรฯ กล่าวว่า “รัฐบาลมีอำนาจในการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผ่านสัญญาภาครัฐ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการปรับปรุงที่จำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมหนัก สหราชอาณาจักรฯ ภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำระดับโลกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรม และการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา Green Public Procurement Pledge จะช่วยเพิ่มความต้องการเหล็ก ซีเมนต์ และคอนกรีตคาร์บอนต่ำ ในขณะที่เราดำเนินการไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์”

Andrew Mayock ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประจำสภาทำเนียบขาวด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “เพื่อสนับสนุนโครงการริเริ่มการซื้อที่สะอาดของรัฐบาลกลาง (Federal Buy Clean Initiative) ของประธานาธิบดีไบเดน เพื่อกระตุ้นความต้องการวัสดุก่อสร้างที่สะอาดขึ้น ในปี 2566 รัฐบาลสหรัฐฯ จึงเริ่มใช้งบประมาณกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการจัดซื้อคอนกรีต แอสฟัลต์ แก้ว และเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำสำหรับอาคารของรัฐบาลกลางและโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง การลงทุนที่เป็นตัวเปลี่ยนเกมนี้โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดในโลก จะกระตุ้นนวัตกรรมของอุตสาหกรรม ถือเป็นความก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายของประธานาธิบดีไบเดนในการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลกลางภายในปี 2593 และเพิ่มความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานของรัฐบาลกลาง

รัฐบาลทั้ง 4 ประเทศยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการกระตุ้นความต้องการและการจำหน่ายวัสดุที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกือบเป็นศูนย์ รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาและการใช้มาตรฐานการจัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคำจำกัดความที่สอดคล้องกันสำหรับวัสดุก่อสร้างที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำหรือเกือบเป็นศูนย์ โดยเริ่มจากเหล็ก ซีเมนต์ และคอนกรีต โดยในการประชุม COP28 ฝ่ายเลขานุการของ IDDI ได้เผยแพร่ white paper ซึ่งสรุปแนวทางที่เป็นไปได้เพื่อมุ่งสู่มาตรฐานการจัดทำบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกัน

รัฐบาลทั้ง 4 ประเทศยังได้ให้คำมั่นที่จะรายงานความคืบหน้าต่อข้อผูกพันการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ IDDI อย่างโปร่งใส และตระหนักถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกันของรัฐบาลและการเจรจาระหว่างภาคส่วนเพื่อเร่งรัดการดำเนินการตามข้อผูกพัน

นอกเหนือจากคำมั่นจากรัฐบาลทั้ง 4 ประเทศแล้ว ประเทศเยอรมัน ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังได้ให้การรับรองคำแถลงเจตจำนง (Statement of Intent) ของ GPP เพื่อมุ่งสู่ประเด็นสำคัญต่าง ๆ ของคำมั่นของ GPP โดยคำแถลงเจตจำนงและคำมั่นของ GPP เปิดรับการเข้าร่วมของรัฐบาลประเทศใดก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของ IDDI

อ้างอิง

https://www.unido.org/news/seven-key-governments-generate-demand-cement-and-steel-decarbonization-technologies-unido-led-green-public-procurement-campaign