• คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับรองความคิดริเริ่มเพื่อเสริมสร้างความมั่งคงทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป โดยการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของสหภาพยุโรป การป้องกันความเสี่ยง และการร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ เพื่อพัฒนาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่มีร่วมกัน
  • แนวคิดริเริ่ม 5 ประการ มีดังนี้ ปรับปรุงการคัดกรองการลงทุนจากต่างประเทศ การควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง บ่งชี้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการลงทุนในต่างแดนในด้านเทคโนโลยีเฉพาะทางที่ล้ำสมัย การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีศักยภาพการใช้งานได้สองทาง และเสริมสร้างความมั่นคงด้านการวิจัยในระดับกลุ่มอุตสาหกรรม/ธุรกิจและในระดับประเทศ

ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนเทคโนโลยีในวงกว้าง คณะกรรมาธิการยุโรปได้รับรองความคิดริเริ่ม 5 ประการ เพื่อเสริมสร้างความมั่งคงทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ข้อเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางสามเสาหลักเพื่อความมั่งคงทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป โดยการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของสหภาพยุโรป การป้องกันความเสี่ยง และการร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ เพื่อพัฒนาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่มีร่วมกัน ในขณะเดียวกันก็รักษาการเปิดกว้างของการค้า การลงทุน และการวิจัยสำหรับเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ความมั่งคงทางเศรษฐกิจของยุโรป (European Economic Security Strategy)

ความคิดริเริ่มมีเป้าหมาย ดังนี้

  • เสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันความปลอดภัยของสหภาพยุโรปและรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้มากยิ่งขึ้น โดยเสนอให้มีการปรับปรุงการคัดกรองการลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาในสหภาพยุโรป
  • ส่งเสริมให้มีการพูดคุยและดำเนินการเพื่อประสานความร่วมมือของยุโรปให้มากขึ้นในการควบคุมการส่งออก โดยเคารพในกรอบพหุภาคีที่เกี่ยวข้องและสิทธิพิเศษของประเทศสมาชิกอย่างเต็มที่
  • ให้คำปรึกษาแก่ประเทศสมาชิกและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อบ่งชี้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการลงทุนในต่างแดน (outbound investment) ในด้านเทคโนโลยีเฉพาะทางที่ล้ำสมัย (narrow set of technologies) (มักหมายถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ)
  • ส่งเสริมการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีศักยภาพการใช้งานได้สองทาง (dual-use technologies)
  • เสนอให้คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอแนะมาตรการที่มุ่งเสริมสร้างความมั่นคงด้านการวิจัยในระดับกลุ่มอุตสาหกรรม/ธุรกิจและในระดับประเทศ

การดำเนินการของสหภาพยุโรปในอนาคตจะขึ้นกับผลการประเมินความเสี่ยงที่กำลังดำเนินอยู่และการประสานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับประเทศสมาชิก เพื่อให้มีความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ยุโรปต้องเผชิญและการดำเนินการที่เหมาะสม

ข้อเสนอด้านกฎหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการคัดกรองการลงทุนจากต่างประเทศ

การลงทุนจากต่างประเทศเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากต่างประเทศบางประเภทอาจมีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหภาพยุโรปและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง คณะกรรมาธิการฯ ได้ตรวจสอบธุรกรรมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (foreign direct investment: FDI) มากกว่า 1,200 รายการที่ได้รับแจ้งจากประเทศสมาชิกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาภายใต้กฎระเบียบการคัดกรอง FDI ที่มีอยู่ จากประสบการณ์นี้และการประเมินการทำงานของกฎระเบียบอย่างละเอียดแล้ว ข้อเสนอฯ นี้จะมุ่งเน้นที่การแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบที่มีอยู่ โดย:

  1. รับรองว่าประเทศสมาชิกทุกประเทศมีกลไกการคัดกรอง ที่มีกฎเกณฑ์ระดับชาติที่สอดประสานกันดีขึ้น
  2. ระบุขอบเขตขั้นต่ำของกลุ่มอุตสาหกรรม/ธุรกิจที่ประเทศสมาชิกจะต้องคัดกรองการลงทุนจากต่างประเทศ
  3. ขยายการคัดกรองไปยังการลงทุนโดยนักลงทุนจากสหภาพยุโรป ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอาจถูกควบคุมโดยบุคคลหรือธุรกิจจากประเทศนอกสหภาพยุโรป

การติดตามตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศ

สหภาพยุโรปเป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของโลกและตระหนักถึงความสำคัญของตลาดเสรีของโลก ทั้งยังรับทราบถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลงทุนในต่างประเทศในด้านเทคโนโลยีเฉพาะทางที่ล้ำสมัย (narrow set of advanced technologies) ซึ่งอาจเพิ่มขีดความสามารถทางการทหารและข่าวกรองของผู้แสดง (actor) ที่อาจใช้เทคโนโลยีเหล่านี้กับสหภาพยุโรปหรือบ่อนทำลายสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

ปัจจุบันไม่มีการติดตามตรวจสอบหรือควบคุมในระดับสหภาพยุโรปหรือระดับประเทศสมาชิก ดังนั้น สมุดปกขาวของคณะกรรมาธิการเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ (Commission’s White Paper on Outbound Investments) จึงได้เสนอการวิเคราะห์การลงทุนในต่างประเทศอย่างละเอียดทีละขั้นตอน เพื่อทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นซึ่งเชื่อมโยงกับการลงทุนเหล่านั้น การวิเคราะห์ประกอบด้วยการหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและการติดตามและประเมินการลงทุนในต่างประเทศในระดับชาติ ซึ่งจะนำไปสู่รายงานการประเมินความเสี่ยงร่วม (joint risk assessment) คณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาร่วมกับประเทศสมาชิกว่าจะใช้นโยบายใดและแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับผลการประเมินความเสี่ยง

Credit:  Flickr/Alex Guibord 

การควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทางที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริบททางภูมิรัฐศาสตร์ที่ท้าทายมากขึ้นในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการดำเนินการในระดับสหภาพยุโรปเพื่อปรับปรุงการประสานความร่วมมือในการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (dual-use goods) คือ สามารถใช้งานได้ทั้งด้านพลเรือนและด้านการป้องกันประเทศ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง สารพิษ เทคโนโลยีนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธ เพื่อไม่ให้ถูกนำไปใช้เพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงและละเมิดสิทธิมนุษยชน

สมุดปกขาวเรื่องการควบคุมการส่งออก (White Paper on Export Controls) ได้เสนอการดำเนินการทั้งระยะสั้นและระยะกลาง โดยเคารพกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ในระดับสหภาพยุโรปและระดับพหุภาคี คณะกรรมาธิการฯ เสนอให้มีการควบคุมสินค้าเหล่านั้นที่ไม่มีการควบคุมการส่งออกในระดับพหุภาคี (เนี่องจากการคัดค้านของประเทศสมาชิกบางประเทศ) ด้วยวิธีการแบบเดียวกันทั้งสหภาพยุโรปจะช่วยหลีกเลี่ยงการมีแนวทางระดับชาติที่หลากหลายไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้

สมุดปกขาวยังจัดให้มีเวทีระดับอาวุโสสำหรับการประสานงานทางการเมืองและประกาศคำแนะนำของคณะกรรมาธิการฯ ในช่วงฤดูร้อนปี 2024 เพื่อให้บัญชีรายการสินค้าที่ควบคุมระดับประเทศ (National Control List) มีความสอดคล้องกันมากขึ้นก่อนที่จะมีการควบคุมระดับประเทศไปใช้ตามแผนที่วางไว้ การประเมินกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (EU Dual-Use Regulation) ของสหภาพยุโรปจะดำเนินไปจนถึงปี 2567

ทางเลือกในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีศักยภาพใช้งานได้สองทาง

สมุดปกขาวเกี่ยวกับทางเลือกในการเพิ่มประสิทธิภาพการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของเทคโนโลยีที่มีศักยภาพใช้งานได้สองทาง คือ ทางด้านพลเรือนและด้านการป้องกันประเทศ ได้ทบทวนว่าในภาวะที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีอยู่และที่เกิดขึ้นใหม่ โครงการให้ทุนสนับสนุนของสหภาพยุโรปในปัจจุบันนั้นเพียงพอสำหรับเทคโนโลยีที่มีศักยภาพใช้งานได้สองทางหรือไม่ โดยสรุปทางเลือกไว้ 3 ประการสำหรับแนวทางข้างหน้า คือ 1) ดำเนินการต่อไปตามที่ได้กำหนดไว้แล้ว 2) เลิกการมุ่งเน้นเป็นพิเศษด้านพลเรือนในบางส่วนของโครงการผู้สืบทอด (successor programme) ภายใต้ Horizon Europe และ 3) สร้างเครื่องมือเฉพาะที่เน้นการวิจัยและพัฒนาสำหรับเทคโนโลยีที่มีศักยภาพใช้งานได้สองทาง

เพิ่มความมั่นคงด้านการวิจัยทั่วทั้งสหภาพยุโรป

ในปัจจุบันที่ด้านภูมิรัฐศาสตร์มีความซับซ้อน ความร่วมมือที่เปิดกว้างและไร้พรมแดนในภาคการวิจัยและนวัตกรรมอาจถูกนำไปใช้ประโยชน์และกลายเป็นช่องโหว่ได้ ผลลัพธ์ของความร่วมมือด้านการวิจัยและนวัตกรรมระหว่างประเทศสามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารในประเทศที่สามหรือละเมิดค่านิยมพื้นฐานได้ สถาบันอุดมศึกษาและการวิจัยอาจตกเป็นเหยื่อของอิทธิพลที่มุ่งร้ายโดยรัฐเผด็จการ ด้วยเหตุนี้คณะกรรมาธิการฯ จึงเสนอข้อเสนอสำหรับ Council Recommendation ในการให้ความชัดเจน แนวทางและการสนับสนุนประเทศสมาชิก รวมถึงภาคการวิจัยและนวัตกรรมโดยรวมให้มากขึ้น ด้วยการผนึกกำลังทุกระดับทั่วทั้งสหภาพยุโรปจะสามารถลดความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านการวิจัย และเป็นหลักประกันว่าความร่วมมือด้านการวิจัยและนวัตกรรมระหว่างประเทศเปิดกว้างและปลอดภัย แนวทางโดยรวมด้านความร่วมมือวิจัยระดับนานาชาติจะเป็นไปตามหลักการ ‘เปิดกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ปิดเท่าที่จำเป็น’

อ้างอิง

https://ec.europa.eu/commission/presscorner/detail/en/ip_24_363