• Siemens ร่วมกับ Microsoft เปิดตัว Siemens Industrial Copilot ที่ใช้ Generative AI ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของ Schaeffler ซึ่งเป็นบริษัทแรกๆ ที่ใช้ Generative AI ในขั้นตอนทางวิศวกรรม
  • Siemens Industrial Copilot มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร เพื่อเพิ่มผลิตผลและประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
  • Siemens และ Microsoft ยังมีแผนร่วมกันพัฒนา Copilot เพิ่มขึ้นอีกสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการดูแลสุขภาพ

Siemens ร่วมกับ Microsoft เปิดตัว Siemens Industrial Copilot ที่ใช้ Generative AI ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของ Schaeffler โดย Siemens Industrial Copilot มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรสามารถสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพและแก้ไขข้อบกพร่องของโค้ดที่ซับซ้อนของระบบอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว และลดระยะเวลาในการจำลองสถานการณ์ (simulation time) ได้อย่างมาก วิธีนี้จะช่วยลดงานที่ก่อนหน้านี้ใช้เวลาหลายสัปดาห์ให้เหลือเพียงหน่วยนาที

Copilot จะนำข้อมูลของระบบอัตโนมัติและการจำลองกระบวนการผลิตมาจาก Siemens Xcelerator และเพิ่มประสิทธิภาพด้วย Azure OpenAI Service ของ Microsoft ซึ่งใช้กรอบการทำงานของ GPT AI โดยที่ลูกค้าจะสามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ทั้งหมดและระบบจะไม่นำข้อมูลไปใช้ในการฝึกการทำงานของโมเดล AI พื้นฐาน

Credit: Siemens AG

การผนวกซอฟต์แวร์ Teamcenter ที่ใช้สำหรับการบริหารจัดการวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ product lifecycle management (PLM) ของ Siemens เข้ากับ Microsoft Teams จะเชื่อมโยงฟังก์ชันต่าง ๆ และสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานตลอดวงจรชีวิตการออกแบบและการผลิตผลิตภัณฑ์ เช่น พนักงานผู้ปฏิบัติหน้างานกับทีมวิศวกร และยังทำให้พนักงานในโรงงานและในภาคสนามสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นด้วย โดยจะพร้อมเปิดให้ใช้งานโดยทั่วไปในเดือนธันวาคมปีนี้

Schaeffler ซึ่งเป็นเจ้าของ Continental และกำลังจะซื้อส่วนที่เหลือของ Vitesco เป็นบริษัทแรกๆ ที่ใช้ Generative AI ในขั้นตอนทางวิศวกรรม ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรสามารถสร้างโค้ดที่เชื่อถือได้สำหรับการเขียนโปรแกรมระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม เช่น หุ่นยนต์ นอกจากนี้ บริษัทตั้งใจที่นำ Siemens Industrial Copilot มาใช้ในระบบการดำเนินงานของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการหยุดชะงักของการทำงาน (downtime) ของเครื่องจักรอย่างมีนัยสำคัญ และเตรียมพัฒนาขั้นต่อไปสำหรับลูกค้าในภายหลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบำรุงรักษายังสามารถใช้ Siemens Industrial Copilot เพื่อให้คำแนะนำในการซ่อมแซมอย่างละเอียดและให้วิศวกรเข้าถึงเครื่องมือจำลองสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

Klaus Rosenfeld ซีอีโอของ Schaeffler Group กล่าวว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและนวัตกรรมด้วยโครงการนำร่องร่วมกันนี้ ซึ่ง Siemens Industrial Copilot จะช่วยให้ทีมงานของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และปลดปล่อยความคิดที่สร้างสรรค์ออกมา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Siemens และ Microsoft ในโครงการนี้”

Roland Busch ซีอีโอของ Siemens AG กล่าวว่า “เราและ Microsoft มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งเสริมศักยภาพให้กับลูกค้าด้วยการนำ Generative AI มาใช้งาน เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพอย่างมากที่จะปฏิวัติวิธีที่บริษัทต่าง ๆ ใช้ออกแบบ พัฒนา ผลิต และดำเนินการ การทำให้การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นจะช่วยให้วิศวกรสามารถเร่งการพัฒนาโค้ด สร้างสรรค์นวัตกรรม และรับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะได้”

Siemens และ Microsoft ยังมีแผนร่วมกันพัฒนา Copilot เพิ่มขึ้นอีกสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการดูแลสุขภาพ ซึ่ง copilot จำนวนมากได้ถูกวางแผนที่จะนำมาใช้ในภาคการผลิตแล้ว เช่น ยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค และการผลิตเครื่องจักร”

อ้างอิง

https://www.eenewseurope.com/en/scheffler-to-pilot-siemens-ai-copilot-for-automotive