• Global Gateway Forum ได้เปิดตัวครั้งแรกที่บรัสเซลส์ โดยมีผู้แทนระดับสูงจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมการประชุมหารือในประเด็นการลงทุนระดับโลกในโครงสร้างพื้นฐาน อภิปรายถึงวิธีแก้ไขปัญหา และบรรลุข้อตกลงใหม่ 
  • ส่วนหนึ่งของข้อตกลงต่าง ๆ จากการประชุมฯ ได้แก่ การสนับสนุนและการลงทุนในด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือพลังงานสีเขียวและไฮโดรเจน การวิจัยและการศึกษา วัตถุดิบที่สำคัญ และระเบียงการขนส่ง ในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจเปลี่ยนผ่าน

Global Gateway Forum ได้เปิดตัวครั้งแรกที่บรัสเซลส์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน และภาคธุรกิจ กว่า 40 องค์กร เข้าร่วมการประชุมหารือเกี่ยวกับความต้องการด้านการลงทุนของโลก อภิปรายถึงวิธีแก้ไขปัญหา และบรรลุข้อตกลงใหม่ ในเวทีการเสวนาได้มุ่งเน้นไปที่พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือพลังงานสีเขียวและไฮโดรเจน การวิจัยและการศึกษา วัตถุดิบที่สำคัญ และระเบียงการขนส่ง (transport corridors)

ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen ได้เปิดการประชุมและได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า “ชะตากรรมของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคตขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงเราทุกคนมากกว่าที่เคยเป็นมา Team Europe ได้นำเสนอโครงการลงทุนระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปที่เคยมีมา นั่นคือ “Global Gateway” โดยได้มอบทางเลือกให้กับประเทศต่าง ๆ – ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะว่าสำหรับหลาย ๆ ประเทศ ไม่เพียงแต่ทางเลือกในการลงทุนมีอย่างจำกัดเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย และบางครั้งก็มีราคาที่สูงมากอีกด้วย นั่นคือเหตุผลที่การลงทุนของ Global Gateway ได้ผล เนื่องจากขับเคลื่อนตามความต้องการและเป็น win-win สำหรับพันธมิตรทุกรายที่เกี่ยวข้อง

ส่วนหนึ่งของข้อตกลงและการประกาศต่าง ๆ ที่ได้จากการประชุม ได้แก่

พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือพลังงานสีเขียว

  • 500 ล้านยูโร สำหรับ Just Energy Transition Partnership (JETP) ในประเทศเวียดนาม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทดแทน
  • 400 ล้านยูโร สำหรับการส่งเสริมด้านพลังงานหมุนเวียนในประเทศบังกลาเทศ ภายใต้หุ้นส่วนความร่วมมือด้าน Green Energy Transition
  • แพ็คเกจมูลค่า 246 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้นสำหรับประเทศกาบูเวร์ดี (Cabo Verde) รวมถึงการกู้ยืมเพื่อความยั่งยืนด้านพลังงาน การสนับสนุนโครงการขยายฟาร์มกังหันลม Cabeólica การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือของประเทศ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงได้และราคาไม่แพงทั่วประเทศ
  • 146 ล้านยูโร สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Kakono ในประเทศแทนซาเนีย ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • 60 ล้านยูโร สำหรับโครงการเศรษฐกิจสีเขียวร่วมกับประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อช่วยเหลือประเทศเศรษฐกิจเปลี่ยนผ่าน (country in transition) เพื่อไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืน
  • 20.4 ล้านยูโร สำหรับ Green and Blue Pact ในประเทศคอโมโรส (Comoros) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นด้านอาหารและด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปและประเทศมอริเตเนีย (Mauritania) ได้เปิดตัวโครงการริเริ่มใหม่ ชื่อว่า Team Europe เพื่อสนับสนุนการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศมอริเตเนีย โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือไฮโดรเจนสีเขียว และเพื่อเป็นการเสริมโครงการริเริ่มนี้ สหภาพยุโรปยังได้ลงนามความร่วมมือใหม่ในปี 2566 ประกอบด้วยเงินมูลค่า 13.7 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนระบบอาหารที่ยั่งยืนและการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง และอีก 10 ล้านยูโร เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (blue economy) ในประเทศมอริเตเนีย

(ธนาคารโลก หรือ World Bank ได้ให้คำนิยามของ เศรษฐกิจสีน้ำเงิน (blue economy) คือ การใช้ทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน เพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และการจ้างงาน ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาระบบนิเวศน์ของทะเล)

วัตถุดิบที่สำคัญ

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ได้มีการรับรองแผนขั้นตอนการดำเนินงานสำหรับหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหภาพยุโรป-ประเทศนามิเบียสำหรับห่วงโซ่มูลค่าวัตถุดิบที่ยั่งยืนและไฮโดรเจนหมุนเวียน โดยได้รับเงินสนับสนุนการลงทุนมูลค่าหนี่งพันล้านยูโรจากสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกและสถาบันการเงินในยุโรป

แผนขั้นตอนการดำเนินงานสำหรับปี 2566 – 2568 มีรายละเอียดการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม ซึ่งหุ้นส่วนความร่วมมือฯ ดังกล่าว และการร่วมดำเนินงานอย่างใกล้ชิดระหว่างสหภาพยุโรป สถาบันการเงินของนามิเบีย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคเอกชน จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของแผนฯ ได้

ระเบียงการขนส่ง

สหภาพยุโรปจะสนับสนุนการศึกษาที่กำลังจะมีขึ้นสำหรับการพัฒนาท่าเรือ Walvis Bay ในประเทศนามิเบีย ซึ่งระเบียงการขนส่ง Maputo Corridor มีจุดเริ่มต้นจากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไปยัง Walvis Bay ซึ่งเป็น 1 ใน 11 เส้นทางยุทธศาสตร์ (Strategic Corridors) ที่สหภาพยุโรปคาดหวังว่าจะให้การสนับสนุน โดยเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจการลงทุน “EU-Africa Global Gateway Investment Package” ด้วยการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป แผนแม่บทที่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งหลากหลายรูปแบบ การวางแผนเชิงพื้นที่ และองค์การตลาด จะได้รับการพัฒนา

สหภาพยุโรปยังประกาศเงินช่วยเหลือจำนวน 12 ล้านยูโร เพื่อการฟื้นฟูและปรับปรุงเส้นทางรถไฟในประเทศมอลโดวาให้ทันสมัย พร้อมด้วยเงินกู้เพิ่มเติมอีกจำนวน 42 ล้านยูโรจากธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรป (European Investment Bank: EIB) ซึ่งไม่เพียงแต่จะเพิ่มการเชื่อมต่อการคมนาคมภายในของมอลโดวา แต่ยังเพิ่มเส้นทางการส่งออกที่สำคัญให้ประเทศยูเครนอีกด้วย เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความคิดริเริ่ม Solidarity Lanes และส่งเสริมเสถียรภาพของภูมิภาคและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ รวมถึงเงินช่วยเหลือจากแหล่งต่าง ๆ ผสมผสานกันอีก 16 ล้านยูโร ผ่าน EIB Global เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยการคมนาคมทางถนนของทางหลวงสายตะวันออก-ตะวันตกของประเทศจอร์เจีย

การศึกษา

ในภาคการศึกษา Jutta Urpilainen กรรมาธิการของสหภาพยุโรปด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ลงนามในสัญญามูลค่า 46 ล้านยูโร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเปิดตัวโครงการริเริ่มครูในภูมิภาคสำหรับแอฟริกา “Regional Teachers’ Initiative for Africa” เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการดำเนินนโยบาย การศึกษา และการพัฒนาวิชาชีพสำหรับครู

สหภาพยุโรปยังประกาศเงินช่วยเหลือจำนวน 10 ล้านยูโร ผ่าน EIB Global เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาในประเทศอาร์เมเนียผ่านการก่อสร้างศูนย์การศึกษาและการฝึกอบรมครูหลักสูตรพิเศษ จำนวน 2 แห่งในภาคใต้ของอาร์เมเนีย

นอกจากนี้ ยังได้ให้เงินจำนวน 30 ล้านยูโร ให้แก่ประเทศทาจิกิสถานเพื่อส่งเสริมการศึกษา และสุดท้ายได้มีการลงนามในแผนปฏิบัติการประจำปีสำหรับปี 2566 และ 2567 เพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่ประเทศเคนยา

ทั้งนี้ ก่อนการประชุมดังกล่าว Global Gateway Civil Society AND Local Authorities Dialogue Platform ยังได้จัดการประชุมครั้งแรกกับ Jutta Urpilainen กรรมาธิการของสหภาพยุโรปด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ แพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นพื้นที่สำหรับภาคประชาสังคมและหน่วยงานท้องถิ่นในการมีส่วนร่วมในการเปิดตัว Global Gateway ภายใต้ลำดับความสำคัญการลงทุนที่แตกต่างกัน

หมายเหตุ

Global Gateway เป็นยุทธศาสตร์ของยุโรปในการส่งเสริมการเชื่อมต่อในดิจิทัล การขนส่ง และพลังงาน ที่ชาญฉลาด ปราศจากภัยคุกคาม และปลอดภัย และเพื่อเสริมสร้างระบบสาธารณสุข การศึกษา และการวิจัยทั่วโลก โดยมีความสอดคล้องกับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 (2030 Agenda) ขององค์การสหประชาชาติและข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และตั้งเป้าที่จะระดมเงินลงทุนสูงถึง 300 พันล้านยูโร

อ้างอิง