- คณะกรรมาธิการยุโรปได้เปิดตัว SME Relief Package ที่ครอบคลุมทั้งมาตรการทางกฎหมายและที่ไม่ใช่กฎหมาย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีขึ้นในตลาดเดียว (Single Market) ของสหภาพยุโรป การจัดการกับความท้าทายที่ SMEs เผชิญอยู่ รวมทั้งส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันและความยืดหยุ่นของ SMEs
- โครงการริเริ่มภายใต้ SME Relief Package ได้แก่ การแก้ปัญหาการชำระเงินล่าช้า การจัดตั้ง Head office Tax System การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบ การลดความซับซ้อนขั้นตอนการบริหารงานภาครัฐ การส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาทักษะแรงงาน และการปรับคำจำกัดความของ SME ให้สอดคล้องกัน
ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs คิดเป็นร้อยละ 99 ของธุรกิจทั้งหมดของสหภาพยุโรป ถือเป็นกระดูกสันหลังทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัลของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนั้น SMEs เหล่านี้ก็ต้องการการสนับสนุนเช่นกัน
Ursula Von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้กล่าวแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อที่ประชุมรัฐสภายุโรป โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ SMEs ความท้าทายที่ SMEs ต้องเผชิญ รวมถึงการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ และความกดดันทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งได้เปิดตัว SME Relief Package ที่ประกอบด้วยโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของ SMEs ง่ายขึ้น
SME Relief Package มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาผลกระทบและให้การส่งเสริมระยะยาวแก่ SMEs โดยครอบคลุมทั้งมาตรการทางกฎหมายและที่ไม่ใช่กฎหมาย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีขึ้นในตลาดเดียว (Single Market) ของสหภาพยุโรป มีรายละเอียด ดังนี้
- การแก้ปัญหาการชำระเงินล่าช้า หนึ่งในปัญหาสำคัญที่คุกคาม SMEs คือการชำระเงินที่ล่าช้า ซึ่งทำให้เกิดการหยุดชะงักของกระแสเงินสดและขัดขวางความสามารถในการแข่งขัน กฎระเบียบใหม่ได้เสนอวงเงินการชำระเงินสูงสุดที่เข้มงวดมากขึ้น การชำระดอกเบี้ยค้างรับ (accrued interest) และค่าธรรมเนียมชดเชยโดยอัตโนมัติ และมาตรการบังคับใช้ที่ปรับปรุงขึ้นเพื่อให้การคุ้มครอง SMEs จากผู้ชำระเงินล่าช้า
- Head office Tax System การจัดตั้ง Head office Tax System สำหรับ SMEs ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากในการปฏิบัติทางภาษีให้ถูกต้อง (tax compliance) สำหรับ SMEs ที่ทำธุรกิจข้ามพรมแดน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการขยายธุรกิจข้ามพรมแดนในกลุ่ม SMEs
- การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบ แพ็คเกจมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบสำหรับ SMEs โดยต่อยอดจากการประยุกต์ใช้หลักการ ‘one in one out’ และ SME Test ที่ประสบผลสำเร็จ การแต่งตั้งทูต SME ของสหภาพยุโรป (EU SME Envoy) ซึ่งรายงานตรงต่อประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารโดยตรงกับ SMEs รวมถึงการให้แนวทางและการสนับสนุนผลประโยชน์ของ SMEs
- การลดความซับซ้อนขั้นตอนการบริหารงานภาครัฐ เป็นหัวใจสำคัญของ SME Relief Package การนำระบบให้ข้อมูลครั้งเดียว (Once-Only Technical System) มาใช้งาน จะช่วยให้ SMEs ให้ข้อมูลแก่ภาครัฐที่สามารถใช้ได้ทั่วทั้งตลาดเดียวโดยไม่ต้องยื่นเอกสารซ้ำซ้อนอีก
- การส่งเสริมการลงทุน สหภาพยุโรปมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน SMEs ด้วยการลงทุนที่เพิ่มขึ้น มาตรการต่าง ๆ ได้แก่ การสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกโอนเงินไปยังหน่วยงานระดับชาติผ่านทาง InvestEU ใน SME window ได้ และสร้างหลักประกันว่าเงินส่วนหนึ่งจากจำนวนที่เสนอไว้ 7.5 พันล้านยูโร จะมีให้สำหรับ SME ผ่าน Strategic Technologies for Europe Platform (STEP) window
- การพัฒนาทักษะแรงงาน แรงงานที่มีทักษะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ SMEs เติบโตได้ European Pact for Skills และโครงการริเริ่มต่าง ๆ จะช่วยสนับสนุนด้านการฝึกอบรมทักษะให้แรงงานอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดช่องว่างระหว่างทักษะและความต้องการของ SMEs ภายในตลาดแรงงานของสหภาพยุโรป
- การปรับคำจำกัดความของ SME ให้สอดคล้องกัน คณะกรรมาธิการยุโรปวางแผนที่จะทบทวนและปรับคำจำกัดความของ SME ในปัจจุบันให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อปลดล็อคศักยภาพทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบของ SMEs
นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อทบทวนผลกระทบของข้อเสนอกฎหมายใหม่ต่อความสามารถในการแข่งขันของ SMEs เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขาในกระบวนการนิติบัญญัติ
โครงการริเริ่มเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของคณะกรรมาธิการยุโรปในการทำให้การดำเนินธุรกิจของ SMEs ง่ายขึ้น และเมื่อมีการนำโครงการริเริ่มเหล่านี้ไปดำเนินการ ก็จะช่วยให้สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจดีขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มั่นใจว่า SMEs ของยุโรป ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของภูมิภาค
อ้างอิง
สำนักงานที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมในต่างประเทศ ประจำกรุงเวียนนา 