
- Race to Zero Dialogues เป็นการหารือมีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจวิธีการเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงระบบที่จำเป็นต่อการบรรเทาผลกระทบและยืดหยุ่นต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- Race to Zero ต้องการสร้างพิมพ์เขียวการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในระยะสั้นและระยะยาวของภาคส่วนต่างๆ ทั้งเมือง ภูมิภาค ธุรกิจและนักลงทุนเพื่อจำกัดไม่ให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส รวมทั้งเป็นการปูทางไปสู่การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กลาสโกว์ในเดือนพฤศจิกายน 2564
- การพัฒนาอย่างรวดเร็วใน 8 ภาคส่วนสำคัญ อย่างพลังงาน อุตสาหกรรม การขนส่ง การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ พื้นที่ในมหาสมุทรและชายฝั่ง น้ำ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยเข้าใจธรรมชาติและการใช้ประโยชน์ที่ดิน (nature-based solutions and land use) และความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate resilience) ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2593
UNFCCC High-Level Champions for Global Climate Action ร่วมกับ Marrakech Partnership ได้ร่วมกันจัดงาน Race to Zero Dialogues ขึ้นระหว่างวันที่ 9-19 พฤศจิกายน 2563 เป็นการหารือมีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจวิธีการเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงระบบที่จำเป็นต่อการบรรเทาผลกระทบและยืดหยุ่นต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการบรรยายและแบ่งปันของวิทยากรกว่า 300 คนจาก 65 ประเทศด้วยการสะท้อนให้เห็นถึงความคืบหน้าในการบรรเทาผลกระทบและปรับตัวจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงบทบาทของความร่วมมือพหุภาคี ความร่วมมือต่างๆ และการรวมตัวกันเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
โดยการหารือในงาน Race to Zero Dialogues นำประเด็นมาจากรายงาน ‘Climate Action Pathways’ ซึ่งเป็นรายงานนำเสนอแนวทางสำหรับการดำเนินด้านสภาพภูมิอากาศที่จำเป็นใน 8 ภาคส่วนสำคัญ โดยต้องการที่จะสร้างพิมพ์เขียวการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในระยะสั้นและระยะยาวของภาคส่วนต่างๆ ทั้งเมือง ภูมิภาค ธุรกิจและนักลงทุนเพื่อจำกัดไม่ให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับระดับก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมในทั้ง 8 ภาคส่วน รวมทั้งเป็นการปูทางไปสู่การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กลาสโกว์ในเดือนพฤศจิกายน 2564
จากรายงานพบว่าการพัฒนาอย่างรวดเร็วในด้านพลังงาน อุตสาหกรรม การขนส่ง การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ พื้นที่ในมหาสมุทรและชายฝั่ง น้ำ การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยเข้าใจธรรมชาติและการใช้ประโยชน์ที่ดิน (nature-based solutions and land use) และความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate resilience) ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2593 รวมทั้งการแสดงถึงภาพรวมของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากดำเนินงานร่วมกันและการเชื่อมโยงกันของขอบเขตต่างๆ เพื่อทำให้เกิดการดำเนินการอย่างบูรณาการ
ตัวอย่างของผลลัพธ์ที่สำคัญที่ได้จาก Race to Zero Dialogues เช่น
- สุขภาพ – การเปิดตัว Pathfinder Initiative เป็นการทำแผนเพื่อแสดงให้เห็นว่าการดำเนินนโยบายและเทคโนโลยีที่ออกแบบมาอย่างดีที่สามารถสร้างประโยชน์หลายประการให้กับผู้คนและโลกเพื่อนำไปสู่สังคมที่มีสุขภาพที่ดีและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และ Health Care Climate Challenge จาก Healthcare Without Harm เข้าร่วม Race to Zero ในฐานะพันธมิตรด้านการดูแลสุขภาพ ทำหน้าที่ระดมโรงพยาบาลและระบบสุขภาพทั่วโลกเข้าร่วม Race to Zero ด้วย
- อุตสาหกรรม – ในวงการแฟชั่นได้มีการจัดทำแผนการลดคาร์บอนร่วมกัน (shared decarbonization roadmap) และหารือแนวทางที่ทำได้และเป็นธรรมในการลดการปล่อยมลพิษลงร้อยละ 45 ภายในปี 2573 ตาม UNFCCC Fashion Charter และ British Retail Consortium เปิดตัว Climate Roadmap โดยกำหนดวิสัยทัศน์ว่าภาคการค้าปลีกในสหราชอาณาจักรจะบรรลุการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 โดยในปัจจุบันมีผู้ลงนามมากกว่า 60 คน
- การขนส่ง – การแสดงพิมพ์เขียวของโครงการสาธิตขนาดใหญ่ (blueprint for large-scale demonstration projects) เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายด้านการขนส่งที่ไม่มีการปล่อยมลพิษภายในปี 2573 และการเปิดตัวแนวร่วม Road Freight Zero เส้นทางสู่การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ โดยมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการในระยะสั้นที่จำเป็นเพื่อเป็นรากฐานในการต่อยอดสู่เป้าหมายยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระยะทางไกลภายในปี 2573
- การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ – การสร้างความร่วมมือกันระหว่าง C40 Cities Global Covenant of Mayors และ CDP โดยประสานงานกับ Science-Based Target for Cities เพื่อขับเคลื่อนให้เมืองจำนวน 1,000 เมืองเข้าร่วม Race to Zero ที่จะจัดขึ้นในงานประชุม Glasgow Climate Change Conference (COP 26) ในปี 2564
- พลังงาน – การเปิดตัวโครงการริเริ่ม CA100+ investor initiative เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการลดปริมาณคาร์บอนในภาคพลังงาน (โดยสมาชิกของกลุ่มปล่อยก๊าซรวมประมาณ 2 ใน 3 ของทั้งโลก)
- น้ำ – การให้คำมั่นโดย Water UK และ Aguas Andinas ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสาธารณูปโภคด้านน้ำที่ใหญ่ที่สุดของชิลีในการลดการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573
- มหาสมุทรและพื้นที่ชายฝั่ง – การเปิดตัวรางวัลเพื่อส่งเสริมการค้นหาแนวทางเชิงนวัตกรรมในแก้ปัญหาเรื่องมหาสมุทรและสภาพภูมิอากาศ จัดขึ้นโดย Blue Climate Initiative of the Innovation Challenge
- การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยเข้าใจธรรมชาติและการใช้ประโยชน์ที่ดิน – การเปิดตัว Green Gigaton Challenge ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของป่าไม้ในการปิดช่องว่างการปล่อยมลพิษ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการฟื้นฟูอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากโควิด-19
- การเงิน – การให้คำมั่นจากธนาคาร 38 แห่ง (คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สิน 38 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) ในการดำรงหลักการความรับผิดชอบต่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ โดยจะมีการออกเป้าหมายตามสถานการณ์ที่เป็นรูปธรรมภายใน 24 เดือนข้างหน้าเพื่อจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อจำกัดภาวะโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส
โดยในการกล่าวปิดการประชุมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน นาย Carlos Alvarado Quesada ประธานาธิบดีของคอสตาริกา กล่าวว่า “หากปราศจากการประสานงานและความร่วมมือพหุภาคีแล้วนั้น “พวกเราจะไม่มีทางที่จะจัดการกับเศรษฐกิจใหม่และ … วิกฤตสภาพภูมิอากาศได้เลย”
รายงานฉบับเต็ม :
แหล่งที่มา :
https://unfccc.int/news/un-race-to-zero-dialogues-finale-calls-for-newfound-inclusivity