กรุงปักกิ่ง, 25 เมษายน 2019 – ผู้อำนวยการองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO), นายหลี่ หยง ได้กล่าวย้ำความตั้งใจขององค์กรในการมีส่วนร่วมริเริ่มกับโครงการ Belt and Road ของประเทศจีน ที่มุ่งสร้างเครือข่ายระบบคมนาคมระหว่างจีนกับประเทศต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน

นายหลี่ หยงได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า “โครงการ Belt and Road มีศักยภาพมหาศาลที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งผลเร่งการดำเนินงานของประเทศ(ต่าง ๆ ) ไปสู่เป้าหมายวาระ 2030 โครงการดังกล่าวสามารถช่วยยกระดับทรัพยากรภาครัฐและเอกชนในการเติมเต็มช่องว่างการระดมทุนสำหรับ SDGs ผ่านการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจไปสู่ความก้าวหน้าทางสังคมและผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม” นายหลี่หยงได้กล่าวระหว่างการเป็นผู้ดำเนินรายการเวทีสนทนาเรื่อง“ การเชื่อมต่อนโยบาย” ซึ่งเป็นรายการในฟอรัมการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation ครั้งที่สอง ณ กรุงปักกิ่ง ว่า “ เพื่อเสริมสร้างการทำงานร่วมกันและเป็นประโยชน์ร่วมกันของโครงการนี้เรา เป็นสิ่งที่จำเป็นในการจัดทำกลยุทธ์และนโยบายการประสานงานเพื่อให้แน่ใจว่ามีความสามารถในการดำเนินการร่วมกันในโครงการ BRI ระหว่างในประเทศและภูมิภาคที่เข้าร่วม”

ผู้อำนวยการ UNIDO ยังกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างฟอรัมดังกล่าวภายใต้หัวข้อ “เส้นทางสายไหมสีเขียว” หรือ Green Silk Road และเข้าร่วมในการเปิดตัวพันธมิตรระหว่างประเทศว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืนในโครงการ Belt and Road ซึ่งมี UNIDO เป็นพันธมิตร ระหว่างการกล่าวต่อที่ประชุมนายหลี่ได้ย้ำถึงประสบการณ์อันยาวนานขององค์กร UNIDO ในการสนับสนุนประเทศต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการส่งเสริมสวนอุตสาหกรรมเชิงนิเวศประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการแก้ปัญหาพลังงานทดแทนและอื่น ๆ

ระหว่างการประชุมผู้อำนวยการใหญ่ได้เข้าหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของจีน (Ecology and Environment  – MEE) นาย Li Ganjie เกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง UNIDO และ MEE โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินการตามฟอรั่มภายใต้หัวข้อ“ เส้นทางสายไหมสีเขียว” ผ่านข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมพหุภาคี

นับตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงสำคัญระหว่าง UNIDO และรัฐบาลจีนในโอกาสการจัดงาน Belt and Road Forum ครั้งแรกในปี 2560 ความร่วมมือระหว่าง UNIDO และจีนได้ขยายตัวต่อไปผ่านโครงการและกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม เชื่อมโยงการพัฒนาสู่แนวทางสากลเกี่ยวกับสวนอุตสาหกรรมและกิจกรรมอื่น ๆ ภายใต้กรอบของความร่วมมืออุตสาหกรรม South-South และ Triangular

นอกจากนี้ UNIDO ลงนามข้อตกลงใหม่กับหน่วยงานของจีนเพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืนในประเทศที่เข้าร่วมโครงการ BRI ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจกับฝ่ายบริหารทั่วไปของศุลกากรจีน (General Administration of Customs of China – GACC) เพื่อให้ความร่วมมือด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าต่อไปและภายในโครงการสำคัญสำหรับการเป็นหุ้นส่วนระดับประเทศหรือ  Programmes for Country Partnership (PCP) ของ UNIDO และได้ทำการลงนามครั้งที่สองกับกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน (Ministry of Water Resources of China – MWR) และและองค์การบริหารมาตรฐานของจีน (Standardization Administration of China – SAC) ซึ่งทั้งสามฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาแนวทางเทคนิคในพื้นที่ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก

ในระหว่างการเยือน ผอ. UNIDO ได้เข้าร่วมพิธีเปิดตัวโครงการ Belt and Road Green Cooling Initiative และ Green Lighting Initiative ซึ่งเสนอโดยคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน ร่วมกับ UNIDO และพันธมิตรอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ภายใต้โครงการทั้งสองนี้ องค์การ UNIDO จะทำงานร่วมกับสมาชิกองค์กรอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการอุปกรณ์ให้แสงสว่างและเครื่องใช้ไฟฟ้าและเทคโนโลยีเครื่องทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพ ผ่านกิจกรรมและความเชี่ยวชาญที่มีอยู่

ผอ.ใหญ่ของ UNIDO ได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานหัวข้อ “Re-Imagining Global Education: Leading the Future” ซึ่งจัดขึ้นโดย Belt of Road Institute ณ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของ UNIDO ในการสนับสนุนความก้าวหน้าของฐานความรู้ด้านเทคนิคนโยบายและบรรทัดฐานการเสริมความรู้และสถาบันได้รับการแนะนำเป็นหนึ่งในสี่ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในกรอบระยะกลางของโครงการ UNIDO ระหว่างช่วงปีค.ศ. 2018 – 2021

นายหลี่ ยง ได้กล่าวต่อที่ประชุมดังกล่าวว่า “ ความรู้และเทคโนโลยีจะเป็นหัวใจสำคัญของงานที่จะมาถึงในอนาคตนี้ และเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อเตรียมผู้นำระดับโลกที่จะสร้างผลงาน และกระจายความตระหนักในความสำคัญของการศึกษาต่อไป” ระหว่างการเยือนดังกล่าว ผู้อำนวยการใหญ่ได้เข้าพบกับนาย Yannick Glemarec ผู้อำนวยการบริหารของ Green Climate Fund เพื่อหารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานอีกด้วย